the tale of the wind knight and the fire prince by: kritzy_8 co-planning by: naiya & monk

Chapter 23 - ค่ำคืนที่วาสเซอร์เฟิร์ต

Content warning: This chapter contains mentions of sexual activities, including oral sex, anal fingering, and sex without a condom.
 
หลังจากพูดคุยในเรื่องที่เครียดอย่างการทำสงครามเสร็จสิ้นพร้อมกับทำแผลเสร็จแล้ว ฟินตันกับบอลด์วินก็ขอตัวออกมาที่บริเวณลานกว้างที่มีกลุ่มกองไฟสามสี่กองกระจายกันอยู่ รอบ ๆ มีเหล่าทหารและชาวบ้านที่ออกมาทำอาหารและเฉลิมฉลองในอิสรภาพของพวกเขาอยู่เต็มไปหมด แต่กระนั้นก็ยังเหลือที่ว่างให้คนอีกสองคนที่เพิ่งมาถึงอยู่
“ฟินตัน ทางนี้เลย”
นอร่ายืดตัวโบกมือหาคนเป็นเจ้าชายท่ามกลางคนรอบข้างที่คุกเข่าลงกับพื้น ข้าง ๆ กันมีเฟลิกซ์กำลังแจกจ่ายซุปที่กำลังต้มร้อน ๆ ได้ที่แก่ชาวเมือง
“พวกเจ้าทุกคนตามสบายได้เลย ทำเหมือนว่าข้าเป็นสหายคนนึงก็พอแล้ว”
ฟินตันเดินนำหน้าบอลด์วินไปหาที่หย่อนตัวนั่งลง แต่ตอนที่ก้นแตะกับพื้นได้ยังไม่ทันนั่งได้สบาย เฟลิกซ์ก็เดินมาหาเสียก่อน
“ฟินตัน ข้ารบกวนเจ้าได้หรือเปล่า? พอดีข้าอยากเข้าห้องน้ำ ฝากเจ้าแจกจ่ายอาหารให้กับชาวเมืองและทหารแทนข้าทีครู่เดียว”
“อื้อ ได้สิ ไม่ต้องรีบร้อนเล่า”
ซึ่งฟินตันก็ไม่ได้ปฏิเสธอะไร เขาคิดเสียด้วยซ้ำว่าอะไรที่พอจะช่วยกันได้ก็พร้อมที่จะช่วยหากได้รับการร้องขอ แค่การตักซุปให้คนอื่นเอง ง่ายกว่างานตอนที่อยู่ร้านอาหารของชาล็อตเสียอีก
ฟินตันกลับมาลุกขึ้นอีกครั้งและเดินไปที่หม้อซุปขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่เหนือกองฟืนที่กำลังเผาไหม้ ส่งความร้อนออกมาให้ความอบอุ่นในอากาศยามค่ำคืนที่เริ่มเย็นลงของเมืองใกล้แนวเทือกนี้
“ของข้าขอสองถ้วยนะ... เอ่อ...”
ชาวเมืองตรงหน้าคนนึงที่หันไปคุยกับลูก ๆ ของตนอยู่หันมาสั่งคนที่ทีแรกเขาเห็นว่าเป็นหนุ่มผมสีทองยิ้มแย้ม แต่พอหันกลับมาคราวนี้กลับกลายเป็นเจ้าชายผู้สูงส่งเสียอย่างนั้น
“ได้เลยครับคุณลุง”
ฟินตันยิ้มและหัวเราะหน่อย ๆ ให้กับปฏิกิริยาของชาวเมืองตรงหน้าที่อ้าปากค้างไปแล้ว คนด้านหลังที่ต่อแถวอยู่ก็ต่างรีบย่อตัวลงทันทีเมื่อสังเกตเห็นผู้ที่อยู่แทนที่เฟลิกซ์
“ท- ท่านฟินตัน กระหม่อมขออภัยขอรับ กระหม่อมไม่คิดว่าจู่ ๆ พระองค์จะมาอยู่ตรงนี้”
“ไม่เป็นอะไรเลย ลุกขึ้นเถอะ พวกเจ้าข้างหลังด้วย”
ฟินตันส่ายหน้าระหว่างตักซุปในหม้อใส่ลงชามไม้ แม้จะเหนื่อยที่จะพูดแล้ว แต่คนเหล่านี้อยู่ภายใต้การปกครองที่เข้มงวดมาตลอด มันต้องใช้เวลาไม่ต่างจากที่เกียสเซนนั่นแหละ
“คนคนนี้คือใครหรือคะท่านพ่อ?”
เด็กผู้หญิงด้านข้างผู้เป็นพ่อของเธอมองใบหน้าของฟินตันแล้วถามพ่อของเธอ จากความสงสัยว่าทำไมคนรอบข้างของเธอจึงได้ย่อตัวลงแบบนี้ แม้จะเริ่มมีคนหลับมายืนดังเดิมแล้วก็ตาม
“เอ่อ-”
“ข้าเป็นเจ้าชายน่ะ พวกเจ้าหนาวหรือเปล่า? ถ้าหากไม่อิ่มกลับมาเอาอีกชามได้นะ”
ฟินตันชิงตอบก่อน แล้วค่อย ๆ ย่อตัวลงให้สายตาของตนอยู่ระดับใกล้เคียงกับเด็กคนนั้น ก่อนจะยื่นถ้วยซุปส่งให้เธอคนนั้นอย่างใจดี ต้องขอบคุณกันเธอร์เลยที่ทำให้ฟินตันเรียนรู้ว่าการจะพูดคุยกับเด็กต้องทำแบบไหน
“ขอบพระคุณขอรับท่านฟินตัน ลูกขอบคุณท่านฟินตันเขาเสียสิ”
เห็นแบบนั้นผู้เป็นพ่อเลยบอกให้บุตรสาวของตนขอบคุณฟินตันโดยเร็ว
“ขอบคุณค่ะท่านฟินตัน”
ซึ่งลูกของเขาก็ทำตามที่บอกทันที เธอน่ารักมากเลยในตอนที่ยิ้มกว่าออกมาในตอนนี้ และทำให้ฟินตันนึกถึงน้องสาวของเขาอย่างไอริสขึ้นมา
“แหะ ๆ ยินดีครับ โตไว ๆ แล้วก็ดูแลท่านพ่อของเจ้าให้ดีนะ”
ฝ่ามือของฟินตันวางลงที่ศีรษะของเด็กหญิงอย่างเบามือแล้วลูบเบา ๆ ก่อนจะรีบดึงออกเพราะลืมไปว่าเธออาจจะไม่ชอบให้มีคนมาสัมผัส
“ข- ขอโทษ ข้าลืมตัวไปหน่อย เจ้าไม่ว่าอะไรข้าใช่หรือเปล่าที่เผลอไปลูบหัวของเจ้าเมื่อครู่?”
ฟินตันลนลานรีบขอโทษเด็กหญิง ภาพที่เห็นมอบความสบายใจแก่คนรอบข้างมากขึ้นให้ไม่เกร็งต่อหน้าเจ้าชายพระองค์นี้ การให้เกียรติทุกคนอย่างเท่ากันกับความเป็นกันเองอย่างมากอันเป็นเอกลักษณ์ก็กำลังค่อย ๆ แทรกซึมสู่ใจของผู้คนชาววาสเซอร์เฟิร์ตทีละนิดแล้ว
“ฮื่อ ไม่เป็นอะไรเลยค่ะ ขอบคุณสำหรับซุปนะคะ ท่านพ่อ เราไปกันเถอะ”
 
ฟินตันทำหน้าที่เป็นคนตักซุปอยู่ได้ครู่หนึ่งเฟลิกซ์ก็กลับมาทำหน้าที่ของตนดังเดิม แต่แทนที่ฟินตันจะกลับไปนั่งอยู่กับบอลด์วินและนอร่า เขากลับเดินวนไปวนมารอบบริเวณกองไฟหลายจุดเพื่อช่วยทั้งการเพิ่มกำลังไฟด้วยพลังจิตที่ตนมี และนำของไปแจกจ่ายแก่ทหารของเขากับชาวเมืองที่ใช้พื้นที่ของค่ายพักแรมเป็นที่พักพิงชั่วคราวก่อนที่บ้านของพวกเขาจะซ่อมแซมหรือสร้างขึ้นมาใหม่ดังเดิมเรียบร้อย
บรรยากาศที่เต็มไปด้วยความเกร็งในตอนแรกค่อย ๆ มีความเป็นกันเองมากขึ้นทีละนิด หลังจากชาวเมืองและทหารใหม่เริ่มคุ้นชินกับฟินตันบ้างแล้วก็มีหลายคนกล้าที่จะถามไถ่และพูดคุยกับเขา ความยิ้มแย้มที่แม้จะไม่มากเท่าตอนยังเด็กทำให้ฟินตันเข้าถึงง่ายยิ่งกว่าเดิม ภาพเหล่านี้ถูกบอลด์วินมองตามตลอดไม่เคยห่าง ใจนึงเขาก็ดีใจที่ฟินตันได้ออกไปพูดคุยกับประชาชนของเขาบ้าง แต่อีกใจก็คิดว่าเมื่อไหร่คนน่ารักคนนั้นจะกลับมานั่งกับเขากันนะ
“มองไม่ละสายตาเลยนะเจ้าน่ะ”
นอร่านั่งลงที่พิงกับขอนไม้ข้าง ๆ กับบอลด์วินพร้อมกล่าวแซวองครักษ์ที่คิดไม่ซื่อต่อเจ้านายของตน แม้จะเห็นทั้งสองจูบกันไปวันก่อน ๆ ที่เป็นการยืนยันความสัมพันธ์ไปแล้ว แต่เธอก็ยังอยากพูดหยอกล้อสหายของเธอคนนี้อยู่ดี
“เห้อ... ก็จะให้ข้าทำอย่างไรเล่า?”
บอลด์วินถอนหายใจแล้วหันเอาเท้าไปดันขาของนอร่าเบา ๆ เป็นการเอาคืนเล็ก ๆ ที่มาพูดแซวเขา
“เฟลิกซ์ ไปตามฟินตันกลับมาหน่อยได้หรือเปล่า เขาช่วยเยอะมากแล้วล่ะ ยิ่งมีแผลอยู่อีก เดี๋ยวจะหายช้าเอา”
นอร่าหัวเราะเล็ก ๆ ให้กับบอลด์วินที่กำลังเขินน้อย ๆ อยู่ แล้วจึงตัดสินใจให้คนผมสีทองเรียกเจ้าชายของพวกเขากลับมา อันที่จริงประชาชนหลายคนและทหารก็ต่างบอกให้ฟินตันกลับไปนั่งอยู่เฉย ๆ อยู่หลายครั้ง แต่มีหรือที่ใครจะมาสั่งฟินตันได้ถ้าไม่ใช่เรื่องว่าจะเอาซุปกี่ชามหรือเอาเนื้อย่างกี่ชิ้น
“เจ้าชายที่นึงได้แล้ว”
เฟลิกซ์จับไหล่ฟินตันไว้ด้วยมือด้านนึง แล้วใช้ฝ่ามืออีกข้างดันตัวคนเป็นเจ้าชายไปหานอร่ากับบอลด์วิน คำพูดนั้นทำให้ฟินตันขมวดคิ้วและหันไปพูดเสียงน่ากลัวกับคนที่ยิ้มแฉ่งอยู่ด้านหลังทันที
“เฟลิกซ์...”
“ข- ขออภัยขอรับ”
เฟลิกซ์รีบขอโทษอย่างรวดเร็วเพราะกลัวว่าฟินตันจะโมโหขึ้นมา หารู้ไหมว่าแท้จริงแล้วนั้น...
“ฮ่า ๆๆ ไม่เป็นอะไรหรอก ข้าแกล้งเจ้าเล่นเฉย ๆ แต่เจ้าเองก็พักเสียหน่อยสิ เจ้ายืนตักซุปมานานแล้วนี่ แล้วก็ไม่มีคนมาต่อแถวแล้วด้วย”
ฟินตันที่อารมณ์ดีดึงเฟลิกซ์มานั่งลงด้วยข้าง ๆ เขาที่นั่งติดกับบอลด์วินอีกที ซึ่งก็จริงอย่างที่เจ้าชายหนุ่มว่า โอกาสที่ยังไม่มีคนมาต่อแถวเอาซุปแล้วแบบนี้เฟลิกซ์พักเสียหน่อยก็คงไม่เป็นอะไร
“เจ้าเจ็บแผลหรือไม่ล่ะนั่น ออกไปถือของส่งของตั้งนาน?”
เมื่อฟินตันกลับมาอยู่ด้านข้างเขาแล้ว บอลด์วินก็ถามไถ่อีกฝ่ายทันที และไม่วาย ยังสำรวจตามตัวคนตัวเล็กกว่าเล็กน้อยข้าง ๆ ด้วยอีก
“ไม่เท่าไหร่ เพื่อคนที่เสียสละเหล่านี้ข้ายอมได้ ขอบคุณนะที่เป็นห่วงข้า”
รอยยิ้มกว้างทำให้บอลด์วินอยากที่จะทำอะไรเอาแต่ใจขึ้นมา เนื่องจากวันนี้นอกจากจะเป็นวันแห่งอิสรภาพของวาสเซอร์เฟิร์ตแล้ว วันนี้ที่เป็นวันที่ 24 เมษายนยังเป็นวันเกิดของเขาด้วย
“เจ้าก็อย่าทำตัวให้ข้าเป็นห่วงนักสิ”
“เหวอ!!”
พูดจบบอลด์วินก็ขยับตัวดึงเอาฟินตันมานั่งที่ที่ว่างระหว่างขาของเขาทั้งสองข้างที่ชันเข่าไปข้างหน้า ด้วยความตกใจเพราะซุปในมือของเจ้าชายหนุ่มเกือบจะหกออกมา ฟินตันเลยร้องลั่นออกมาจนดึงความสนใจของคนรอบข้างมาจนหมด และเห็นภาพดังกล่าวระหว่างเขาและบอลด์วิน
“ดูนั่นสิ...”
“หรือว่าท่านฟินตันกับ...”
“แหม... บอลด์วิน เจ้าช่วยสนใจสายตาคนรอบข้างบ้างก็ดีนะ”
เฟลิกซ์พูดแซวแล้วกระทุ้งข้อศอกใส่สีข้างของสหายสมัยเด็กของเขา กับเฟลิกซ์และนอร่าแล้ว เขาและนางไม่ว่าอะไรหรอกกับเรื่องราวของคนสองคนนี้ แต่กับคนที่ไม่รู้มาก่อนรอบข้างมากมายนี่สิ
“ทำอะไรของเจ้ากันบอลด์วิน ไอ้บ้านี่!”
ฟินตันเองก็หน้าแดงขึ้นมาจากท่านั่งในตอนนี้ ไหนจะฝ่ามือทั้งสองข้างของคนด้านหลังที่โอบเอวของเขาไว้หน่อย ๆ นี่อีก
“วันนี้วันที่เท่าไหร่เจ้าจำได้ไหม?”
“วันนี้? ว่าแต่วันนี้วันที่เท่าไหร่หรือ?”
บอลด์วินที่เขิน ๆ กับการกระทำของตนเองถอนหายใจออกมายาว ก่อนจะพูดออกมาชัด ๆ ช้า ๆ ให้คนตรงหน้าได้ฟัง
“วันนี้วันที่ 24 เมษายน ปี 1808 เจ้าหลงวันหลงคืนแล้วหรืออย่างไรกัน?”
“24 เมษายนหรือ... อ๊ะ! วันเกิดของเจ้านี่นา ข้าลืมไปเสียสนิทเลย ขอโทษด้วย ไม่สิ... แล้วมันเกี่ยวอะไรกับที่ดึงข้ามานั่งตรงนี้กัน?!”
ฟินตันพอนึกออกก็รีบขอโทษคนรักของตนที่ไม่ได้อวยพรในวันเกิด แต่ก่อนจะไหลตามความคิดของตนไป ฟินตันก็กลับมาโวยวายต่อกับการกระทำอันน่าอายนี้ของบอลด์วินต่อ เรื่องนี้ไม่เห็นจะเกี่ยวตรงไหนเลยกับการเอาเขามานั่งแบบนี้ มันออกจะน่าอายแปลก ๆ แถมคนรอบข้างก็ต่างมองเขาอีก
“ก็เจ้านั่นแหละลืมวันเกิดของข้า ข้าก็เลย... ขอทำตามใจเสียหน่อย”
บอลด์วินพูดด้วยเสียงน้อยใจจบก็วางหน้าผากลงกับไหล่ของฟินตัน เขาน้อยใจยิ่งกว่าเดิมอีกพอโดนฟินตันพูดแบบนี้ให้ รวมกับที่วันนี้คนรักของเขาไปกอดให้กำลังใจเฟลิกซ์อีก แม้จะรู้ว่าเพื่อให้กำลังใจและชมอีกฝ่าย แต่ก็อดไม่ได้อยู่ดีที่จะหึงและน้อยใจ
“บ- บอลด์วิน ข้าขอโทษ เจ้าโกรธข้าหรือ?”
ฟินตันเริ่มที่จะทำตัวไม่ถูกแล้ว เมื่อครู่เขายังคุมทุกอย่างอยู่ ไหงมาตอนนี้ถึงโดนบอลด์วินแย่งการควบคุมไปแทนได้กันเสียนี่
เจ้าชายผมสีน้ำตาลหันไปมองใบหน้าที่อยู่ที่ไหล่ข้างซ้ายของตน เขาค่อย ๆ ยกมือข้างหนึ่งมาลูบอีกฝ่ายเบา ๆ เพื่อหวังให้อีกฝ่ายไม่โกรธเขา และทำให้นอร่าอยากที่จะกรี๊ดและดิ้นออกมาให้ได้กับภาพที่เห็นนี้
“ข้าไม่โกรธเจ้าหรอก แค่น้อยใจหน่อย ๆ เฉย ๆ”
บอลด์วินพูดออกมาเสียงอ่อน จริง ๆ แล้วแค่ได้ทำตามใจตัวเองแบบนี้เขาก็พอใจเล็ก ๆ แล้วล่ะ แถมยังได้แสดงความเป็นเจ้าของเจ้าชายพระองค์นี้ไปด้วยในตัวอีกด้วย
“แล้วข้าต้องทำอะไรเจ้าถึงจะหายน้อยใจล่ะ?”
“แค่อยู่ตรงนี้แล้วไม่ว่าอะไรข้าก็พอแล้ว”
ฉะนั้นอัศวินหนุ่มเลยไม่ได้ขออะไรจากเจ้าชายตรงหน้าไปมากกว่านี้ และพอฟินตันได้ยินแบบนั้นเขาก็โล่งอกขึ้นมาได้หน่อย เขากลัวจริง ๆ นะว่าบอลด์วินจะโกรธเขาจริง ๆ เพราะในอดีตที่เคยโดนอีกฝ่ายโกรธเข้าให้เอาก็นานอยู่เหมือนกันที่จะกลับมาเป็นปกติกันได้ มีครั้งนึงฟินตันต้องลงทุนเขียนจดหมายฝากกับกันเธอร์ไปเลยอีกฝ่ายถึงจะยอมมาพูดกับเขา
“ข้าถามจริง ๆ เถอะพวกเจ้าทั้งสอง”
นอร่าที่นั่งไม่นิ่งมาพักใหญ่ ๆ ทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้วตัดสินใจที่จะถามคู่รักตรงหน้าของเธอ
“หืม?”
“?”
คนสองคนที่นั่งอยู่ด้วยกันหันมาหาคนถามพร้อม ๆ กัน นอร่าหายใจเข้าออกช้า ๆ เพื่อสงบสติอารมณ์ของเธอ ก่อนจะถามคำถามที่ถามไปไม่รู้กี่รอบนี้แล้วในอดีตอีกครั้ง
“พวกเจ้าสองคนคบหากันหรือ?”
ใบหน้าของฟินตันและบอลด์วินจู่ ๆ ก็มีสีชมพูระเรื่อปรากฏขึ้นพร้อมกัน และเมื่อไม่มีใครตอบซักคน ฟินตันเลยตัดสินใจที่จะพูดเอง
“อื้อ... ข้ากับบอลด์วินพูดคุยกันอยู่”
“ฟ- เฟลิกซ์ ช่วยข้าด้วย ชีวิตข้าสมบูรณ์แล้วในที่สุด กรี๊ดดดดด!”
 
“เจ้าไม่โกรธข้าแน่ ๆ ใช่หรือเปล่า?”
แม้ในยามที่เจ้าชายหนุ่มและอัศวินของเขากลับมาที่เต็นท์ที่พักแล้ว คนผมสีน้ำตาลก็ยังไม่หายกังวลเลยว่าบอลด์วินจะโกรธเขาหรือไม่ ถึงอีกฝ่ายจะบอกแล้วก็ตามว่าไม่ได้โกรธอะไรเลย
“อื้อ ข้าไม่ได้โกรธเจ้าจริง ๆ”
บอลด์วินยืนยันคำพูดของตนพร้อมกับถอดเสื้อออกเพื่อเปลี่ยนไปใส่ชุดสำหรับใส่นอนที่ใส่สบายกว่า
“แต่ข้ารู้สึกผิดนี่นา ไม่มีอะไรที่ข้าทำได้เลยหรือให้ความรู้สึกผิดของข้ามันหายไป?”
ฟินตันที่ได้รับคำยืนยันไปแล้วแต่ก็ยังรู้สึกผิดอยู่ดี การที่เขาลืมวันเกิดของอีกฝ่าย แถมยังไปว่ากล่าวอีกฝ่ายที่ถ้าพูดจริง ๆ แล้วก็ทำตัวน่ารักกับเขาอีก ไม่ว่าอย่างไรเขาก็อยากที่จะทำอะไรซักอย่างให้บอลด์วินอยู่ดีถึงจะหายรู้สึกผิดกับมั่นใจได้ว่าอีกฝ่ายจะไม่โกรธเขาจริง ๆ
“ข้าบอกแล้วอย่างไรว่าข้าไม่ได้โกรธเจ้า หืม?”
บอลด์วินหยุดการเปลี่ยนชุดไว้เพียงเท่านั้นแล้วเดินมาหาฟินตันที่ยืนอยู่ข้างเตียง ก่อนจะลูบใบหน้าที่เหมือนจะอยากร้องไห้นั้นเบา ๆ
“ให้ข้าทำอะไรซักอย่างเถอะนะ ข้ารู้สึกผิดจริง ๆ อะไรก็ได้”
ฟินตันยกมือขึ้นมาจับแขนของบอลด์วินไว้และมองอีกฝ่ายขณะพูด หากไม่ได้ทำอะไรให้อีกฝ่าย ก็คงนอนไม่สบายใจแน่ ๆ คืนนี้
“อืม... อะไรก็ได้หรือ?”
แล้วบอลด์วินได้ความคิดบางอย่างที่ไม่รู้ว่าสมควรไหมมา เขาเลยถามคนตรงหน้าซ้ำอีกครั้ง เพราะสิ่งที่เขาอยากจะกระทำนั้น มันน่าจะเกินเลยไปมากเลยระหว่างทั้งสอง
“อื้อ อะไรก็ได้ทั้งนั้น”
พอได้รับคำยืนยัน อัศวินหนุ่มก็เดินหน้าในเรื่องนี้ต่อตามความต้องการทันที
“เช่นนั้นแล้ว...”
“!!”
 
ริมฝีปากของฟินตันถูกประกบลงโดยบอลด์วิน จูบที่เริ่มต้นอย่างเนิบช้าและหยุดลงในเวลาเพียงชั่วครู่ ก่อนจะตามมาต่ออีกครั้งที่ยาวนานกว่าเก่า รุกล้ำยิ่งกว่าครั้งก่อน และนุ่มลึกกว่าเดิม เสียงหายใจหอบปนกับเสียงการแนบชิดของริมฝีปากดังขึ้นสลับกันในเต็นท์ที่มีแสงสลัวนี้ ฟินตันในที่สุดก็ทนไม่ไหวแล้วผลักไหล่ของคนตัวสูงออกเพื่อรับอากาศเข้าไปภายในปอดเพื่อหายใจ
“พ- พักก่อน ข้าหายใจไม่ทัน อ๊ะ! อือ!”
แต่บอลด์วินไม่ยอมที่จะฟัง เขาประกบริมฝีปากลงไปหาฟินตันอีกครั้ง ปลายลิ้นดุนเบา ๆ คนตัวเล็กกว่าตรงหน้าก็ยอมให้เขาเข้าไปด้านใน ลิ้นที่สัมผัสกันไปมาทำให้ความรู้สึกต่าง ๆ มันเริ่มก่อเกิดมากขึ้นเรื่อย ๆ อากาศในยามค่ำของเมืองใกล้แนวเทือกเขานี้จู่ ๆ ก็หายเย็นขึ้นมาเสียแบบนั้น
“แฮก... ข้าขอตามใจของตัวเองหน่อยนะ”
น้ำลายที่ยืดเป็นสายยามที่พวกเขาขยับออกห่างจากกันมันแม้จะน่าอาย แต่มันก็เชิญชวนให้ฟินตันวางมือทั้งสองข้างลงกับไหล่ของบอลด์วิน และกลับไปจูบกับคนรักของเขาอีกครั้ง ครั้งนี้เขาลองเป็นฝ่ายนำก่อนดูบ้าง แล้วก็ดูเหมือนจะเริ่มทำได้ดีแล้วด้วยจากการนำโดยบอลด์วินมาหลายครั้ง ความหวานภายในช่องปากเริ่มก่อตัวโดยไร้ที่มา สัมผัสที่ใบหน้าของฟินตันจากมือของบอลด์วินเริ่มขยับลงมาที่ไหล่ มาถึงลำตัว ก่อนจะสอดเข้าไปภายในเสื้อสีเข้มที่มีรอยขาดและคราบเปื้อนบ้างจากทั้งดาบ พลังจิต และเวทมนตร์ แผ่นหลังของฟินตันถูกลูบไปมาทำให้เจ้าตัวเริ่มที่จะยืนไม่มั่นคงนัก เลยได้ใช้มือข้างหนึ่งกำเสื้อของบอลด์วินเอาไว้
“จ- เจ้าจะทำอะไร? อ๊ะ!”
ฟินตันอาศัยจังหวะที่ริมฝีปากเป็นอิสระในการถามคนรักของเขา แต่ในตอนนั้นนั่นเองที่บอลด์วินย้ายริมฝีปากของเขาไปที่คอของเจ้าชายหนุ่มแทน ส่งสัมผัสที่ชวนให้ขนลุกสะท้านไปทั่ว ยิ่งในตอนที่คนผมสีดำออกแรงดูดเบา ๆ และขยับไปที่กระดูกไหปลาร้าของฟินตันอีก
“บอลด์วิน อึก...”
“ข้าขอของขวัญวันเกิดจากเจ้าได้หรือเปล่า?”
ริมฝีปากของบอลด์วินที่คลอเคลียอยู่ที่คอของฟินตันพูดออกมาเสียงนุ่มลึก ลมจากแต่ละพยางค์ของคำพอสัมผัสกับต้นคอที่ไวต่อความรู้สึกแล้วก็ยิ่งทำให้ลมหายใจของฟินตันหอบยิ่งไปใหญ่
“จ- เจ้าอยากได้อะไรล่ะ?”
สายตาที่เยิ้มฉ่ำของฟินตันมองบอลด์วินเข้าไปลึกในดวงตาสีฟ้าสวย จะว่าไปแล้วมันก็นานมาแล้วเหมือนกันที่ฟินตันทำเรื่องอะไรแบบนี้ ฉะนั้นถ้าหากอีกฝ่ายอยากจะทำอะไรแบบที่เขาคิด เขาก็ไม่ขัดเช่นกัน เพราะมันคงจะทำให้คนตัวสูงรู้สึกดีขึ้นได้ไม่มากก็น้อย และจะไม่โกรธเขาด้วย
“พูดแบบนี้เจ้าคิดดีแล้วดีแล้วหรือ?”
ฝ่ามือของบอลด์วินเลื่อนจากแผ่นหลังสวยมาทางด้านหน้า ก่อนจะสัมผัสเข้ากับสิ่งที่กำลังชูเด่นอยู่ใต้เสื้อ
“ดีแล้วสิ อ๊า!”
สัมผัสเบา ๆ ส่งให้เสียงร้อยน่าอายออกมาจากปากคนเป็นเจ้าชาย ต่อจากนั้นสัมผัสที่ตามมาอีกหลายทีก็ทำให้ฟินตันเข่าอ่อนจนเกือบจะยืนไม่อยู่ มืออีกข้างของบอลด์วินเลยขยับมาประคองเขาเอาไว้
“ข้าอยากจะแน่ใจว่าเจ้าอยากจะทำมันจริง ๆ เจ้าไม่ว่าอะไรใช่หรือไม่หากข้าจะทำต่อมากกว่านี้? ไม่ใช่เพราะเจ้าอยากทำอะไรให้ข้า แต่เพราะข้าอยากให้เจ้าอยากทำจริง ๆ ไม่ใช่เพียงแค่กลัวข้าโกรธเจ้า”
บอลด์วินถามคำยืนยันจากฟินตันเป็นครั้งสุดท้าย เพราะในตอนนี้ภายใต้กางเกงหนานั้นมันปวดจนจะแย่อยู่แล้ว และเขาไม่อยากให้ฟินตันฝืนทำเพียงเพราะแค่ไม่อยากให้เขาโกรธอีกฝ่าย
“มันถึงขั้นนี้แล้วนะ แถมอีกอย่าง...”
“!!”
“เจ้าทนมันไหวหรือ?”
ไม่ได้มีแค่เจ้าของร่างกายที่รู้สึกพิเศษในจุดนั้น ฟินตันเองก็สังเกตความนูนปูดที่มากกว่าปกติได้เช่นกัน หัวเข่าของฟินตันข้างหนึ่งยกขึ้นสอดไปที่ระหว่างขาทั้งสองข้างของอัศวินหนุ่มช้า ๆ ความแข็งขืนที่อยู่ภายในสัมผัสเข้ากับหัวเข่านั้น ก่อนที่เจ้าของดวงตาสีน้ำตาลจะถูวนหัวเข่าของเขาไปมากับบริเวณนั้น เรียกความต้องการของบอลด์วินให้มากขึ้นไปกว่าเดิม
ฟินตันถูกดันให้ล้มลงนอนราบบนเตียงด้านหลัง เสื้อที่เลิกขึ้นหน่อย ๆ นั้นมันเชิญชวนให้บอลด์วินก้มลงไปกระซิบข้างหูอีกฝ่ายด้วยเสียงนุ่มลึก
“ข้าจะถือว่านั่นคือคำยินยอมนะ”
ฟินตันกดจูบสั้น ๆ ที่ใบหน้าตรงหน้า ก่อนจะอนุญาตให้บอลด์วินทำต่อไปได้เลยในสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้น
“ข้ายอมเฉพาะกับเจ้าคนเดียวนั่นแหละ”
 
เสื้อของฟินตันถูกถอดออกไปและโดนโยนหล่นออกไปจากเตียงนุ่ม ใบหน้าของบอลด์วินลากจูบที่เต็มไปด้วยความเสน่หาลงต่ำไปเรื่อย ๆ จนมาหยุดที่อกที่มีกล้ามเนื้อพอให้ดูดีของฟินตัน และดูดส่วนที่แข็งเป็นไตอยู่จนเกิดเสียงน่าอายออกมา
“อ๊า... บ- บอลด์วิน”
ฟินตันบิดตัวไปมาจากสัมผัสที่ไม่เคยได้รับมาก่อน แม้เขาจะเขาเคยเล่นกับส่วนนี้ของตัวเองมาก่อนในยามที่ช่วยตัวเองในอดีต แต่สัมผัสจากมือของตัวเองนั้นมันเทียบไม่ได้เลยจากการใช้ปากกับตรงนี้
ปลายลิ้นของบอลด์วินที่ไล้ไปมากับส่วนที่ตั้งชูชันในทุกการดูดดุนสลับไปมาระหว่างอกด้านขวาและซ้าย ยิ่งฟินตันครางออกมาทีไรเขาก็ยิ่งขบเน้นส่วนที่อ่อนไหวนั้นด้วยฟันย้ำไปอีกเบา ๆ จนแรงดิ้นของคนข้างล่างเปลี่ยนเป็นผลักให้เขาขยับออก
“ห- หยุดก่อน ข้า แฮก... มันดีเกินไป”
เมื่อได้รับคำขอเช่นนั้น ริมฝีปากของบอลด์วินเลยกลับมาจูบกับฟินตันดังเดิม แต่ในขณะเดียวกันมือข้างหนึ่งของเขาก็เลื่อนลงไปซุกซนกับกระดุมที่กางเกงของเจ้าชายคนน่ารัก เขาค่อย ๆ ปลดมันช้า ๆ ในขณะจูบกับเจ้าของของมันไป การดึงความสนใจเอาไว้กับการจูบทำให้กว่าฟินตันจะรู้ตัวอีกที กางเกงขายาวของเขาก็ถูกปลดกระดุมออกจนหมดแล้ว
“ต- ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน? ด- เดี๋ยว บอลด์วิน!!”
โดยไม่ฟังคำห้าม บอลด์วินดึงกางเกงและกางเกงชั้นในของผู้เป็นเจ้าชายลงและครอบครองส่วนที่ชูชันที่มีของเหลวซึมเยิ้มออกมาเข้าไปไว้ในช่องปาก
“อ๊ะ อ๊า... บอลด์วิน หยุดก่อน ด- เดี๋ยว อ- อึก-”
สัมผัสที่ดีกว่าการช่วยตัวเองเป็นไหน ๆ แล่นสะท้านร่างกายของฟินตันไปทั่ว ฝ่ามือเริ่มกุมจิกไปกับผ้าปูที่นอน นิ้วเท้าเริ่มขยับไปมาและขยุมเข้าหากันจากความเสียวซ่านมากมายเป็นละลอกตามจังหวะการขยับศีรษะขึ้นและลงของบอลด์วิน
“อา... ชอบหรือไม่?”
ของเหลวใสยืดจากส่วนปลายแก่นกายของเจ้าชายหนุ่มเชื่อมไปยังลิ้นที่มีสีเดียวกันของบอลด์วินในขณะที่ถามใบหน้าอันแดงก่ำทำให้เจ้าชายหนุ่มเขินจนไม่รู้ว่าจะเขินยังไง การที่อีกฝ่ายทำแบบนี้ให้เขามันเกินกว่าที่คาดหมายไปมาก ทีแรกฟินตันคิดว่าเขาและบอลด์วินจะช่วยตัวเองด้วยกันเท่านั้นเอง
“ล- แล้วทำไมข้าจะไม่ชอบเล่า...”
ได้ยินแบบนั้นบอลด์วินก็ยิ้มเจ้าเล่ห์ออกมาและก้มศีรษะลงไปครอบครองส่วนที่อ่อนไหวที่สุดของฟินตันให้กลับมาอยู่ภายในช่องปากของเขาอีกครั้ง ความอุ่นและนุ่มภายในช่องปากของบอลด์วินชวนให้ฟินตันรู้สึกดีมากยิ่ง ๆ ขึ้นไป และอีกไม่นานหากยังคงทำแบบนี้อยู่ละก็...
“ช้าลงก่อนบอลด์วิน”
ฟินตันลุกขึ้นชันตัวกึ่งนั่งกับเตียง เขาวางมือลงกับกลุ่มผมสีดำตรงหน้าแล้วพยายามออกแรงให้อีกฝ่ายช้าลง เขายังไม่อยากจะเสร็จในตอนนี้ที่ยังไม่ได้ทำให้อีกฝ่ายรู้สึกดีเลย
“หืม?”
“ให้ข้า ท- ทำให้เจ้าบ้างดีหรือไม่?”
แม้จะอายเป็นอย่างมากกับคำพูดของตัวเอง แต่อารมณ์ที่ถูกจุดติดถึงขั้นสุดแล้ว ฟินตันก็อยากที่จะทำแบบเดียวกันนี้กับคนรักของเขาบ้างเหมือนกัน
“เห้ย! เดี๋ยวก่อนฟินตัน ม- ไม่ต้องก็ได้-”
ฟินตันที่เปลือยเปล่าแล้วลุกจากเตียงไปทรุดตัวลงที่ด้านข้างเตียงที่บอลด์วินยืนอยู่ ก่อนจะค่อย ๆ แกะกระดุมของกางเกงตรงหน้าออกอย่างทุลักทุเลเพราะมือที่สั่น แต่ในที่สุดเขาก็แกะมันออกมาได้ และพอดึงมันลงให้ตกลงมาที่ข้อเท้า กางเกงชั้นในที่นูนปูดตรงหน้าก็เป็นสิ่งเดียวที่กั้นเขาเอาไว้กับความปราณาของบอลด์วิน มือของฟินตันที่ยังสั่นค่อย ๆ จับที่ขอบของมันแล้วดึงลง แก่นกายที่แข็งเต็มที่เด้งออกมาจนเกือบจะชนเข้ากับใบหน้าที่มีผ้าพันแผลแปะเอาไว้
“เจ้าทำให้ข้ารู้สึกดีอยู่คนเดียวแบบนี้ได้ยังไงกัน ให้ข้าทำเถอะนะ”
“เห้อ... หากเช่นนั้นก็ ตามใจเจ้าได้เลย แต่อย่าอมเข้าไปลึ- เห้ยฟินตัน! อึก!!”
พูดยังไม่ทันขาดคำฟินตันก็รับแท่งเนื้ออุ่นร้อนเข้าไปไว้ในช่องปาก และด้วยความลึกที่ฟินตันรีบร้อนนำมันเข้าไป มันก็ทำให้เจ้าชายหนุ่มสำลักออกมาจนน้ำตาไหล
“ค- แค่ก ๆๆ อึก- แค่ก ๆ”
“ข้าบอกยังไม่ทันขาดคำเลย ช้า ๆ เข้าใจหรือเปล่า หืม?”
บอลด์วินย่อตัวลงมานั่งกับพื้นแล้วค่อย ๆ ใช้ปลายเสื้อของเขาเช็ดน้ำตาและน้ำลายที่ฟินตันสำลักออกมาจนเปื้อนไปหมดอย่างใจเย็น เขาค่อย ๆ อธิบายให้เจ้าชายที่เขารักฟังว่ามันต้องทำช้า ๆ ไม่ต้องรีบร้อน เพราะนี่มันก็เป็นครั้งแรกของพวกเขาทั้งคู่ ไม่จำเป็นต้องรีบร้อนอะไร
“ลองใหม่อีกที”
“อื้อ”
บอลด์วินลุกขึ้นไปนั่งลงกับขอบเตียงและอ้าขาทั้งสองข้างออกให้ฟินตันสามารถที่จะคุกเข่าอยู่ระหว่างมันได้ ก่อนที่ริมฝีปากของเจ้าของกลุ่มผมสีน้ำตาลจะครอบครองส่วนตรงกลางลำตัวของเขาเข้าไปไว้ข้างในช้า ๆ
“ซี๊ด... ฟ- ฟินตัน”
และทันทีที่ปลายลิ้นของฟินตันสัมผัสเข้ากับตรงปลายที่ไวต่อสัมผัส บอลด์วินก็ซี๊ดปากออกมาเสียงดัง ฝ่ามือข้างหนึ่งกำเข้าที่กลุ่มผมสีน้ำตาลตรงหน้าก่อนจะค่อย ๆ บังคับให้ศีรษะของฟินตันขยับขึ้นและลงช้า ๆ เป็นจังหวะ เมื่อพอเริ่มได้ที่เขาก็ปล่อยมือออกและให้ฟินตันได้ทำสิ่งที่อยากทำด้วยตัวเอง
“แบบนั้นเลย ค่อย ๆ ระวังฟัน อ- อึก ฟินตัน ค่อย ๆ อย่าลึกมาก อ๊า...”
ฟินตันฟังคำแนะนำแต่ก็ยังคงอมมันเข้าไปลึก ส่วนปลายที่สัมผัสลำคอด้านในทำให้บอลด์วินพูดเริ่มไม่เป็นภาษา ความเสียวที่ก่อตัวมากขึ้นและมากขึ้นมันค่อย ๆ เอ่อล้นออกมาเป็นของเหลวใสที่คลุกเคล้าไปกับน้ำลายในช่องปากของฟินตัน มันมากจนหยดไหลเยิ้มออกมาตามมุมปากแล้วทีละหน่อย เป็นภาพที่ปลุกกระตุ้นอารมณ์ของบอลด์วินให้ขึ้นถึงขีดสุด และทำให้อัศวินหนุ่มกลับมาใช้มือบังคับจังหวะของศีรษะตรงหน้าอีกครั้ง
“ทนอีกนิดนะฟินตัน อึก-”
ฝ่ามือหนากดศีรษะของฟินตันให้ขยับเข้าออกถี่กว่าเดิม ก่อนจะเริ่มบังคับให้แก่นกายของเขาเข้าไปลึกมากขึ้นในลำคออุ่น เสียงของความเหนอะหนะและแฉะเปียกชื้นดังขึ้นปนไปกับเสียงหายใจหอบ ก่อนที่สุดท้ายบอลด์วินจะทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้วและกดศีรษะของฟินตันลงไปให้ต่ำที่สุดค้างไว้แบบนั้น
“อ- อื๊อ อ่อก!”
“เชี่ย เวรแล้ว”
เมื่อรู้ตัว บอลด์วินก็รีบผลักให้ฟินตันถอยหลังออก ของเหลวสีขาวขุ่นพุ่งทะลักออกมาจากส่วนปลายของมันตามการกระตุกของร่างกาย บางส่วนที่พ่นออกมาก่อนหน้านี้อยู่ในปากของฟินตัน และส่วนที่เหลือร่วงหล่นหยดใส่ใบหน้าของฟินตันเต็มไปหมดจนราวกับห่าฝนได้ตกลงมาใส่เจ้าชายหนุ่ม
“งือออ บอลด์วิน”
ฟินตันโวยวายออกมาในขณะที่หลับตาลงเพราะของเหลวเหนียวขุ่นเปื้อนเต็มใบหน้าของเขาไปหมด ไม่พอ บางส่วนยังหยดลงเปื้อนกับตัวของเขาด้วยอีก
“ข้าขอโทษ ข้าขอประทานอภัยเป็นอย่างสูง คายออก... มา... นะ...”
“อึก… ไม่ทันแล้ว...”
บอลด์วินบอกช้าไปหน่อย เพราะฟินตันได้กลืนทั้งหมดที่อยู่ภายในช่องปากลงไปแล้วเมื่อครู่ ความหวานแปลก ๆ ที่ชวนให้ลิ้มรสดูอีกครั้งนำให้ฟินตันแลบลิ้นออกมารับของเหลวดังกล่าวที่เปื้อนอยู่เข้าริมฝีปากเข้าไปอีกครั้ง
“ฟินตัน เจ้าทำอะไรกัน อย่ากินสิ!”
บอลด์วินถอดเสื้อของตัวเองออกมาแล้วใช้มันเช็ดใบหน้าของคนตรงหน้าให้กลับมาสะอาดอีกครั้ง ไม่พอ ปลายนิ้วของเขายังบังคับให้ฟินตันเปิดปากออกอีกเพื่อจะเอาของเหลวจากร่างกายของเขาออกมาให้หมด แต่ในนั้นก็กลับว่างเปล่าไปแล้ว
“หวาน...”
“เจ้าอย่าพูดแบบนั้นได้หรือเปล่า นั่นมันไม่ใช่สิ่งที่ควรจะกินนะ”
บอลด์วินปล่อยช่องปากของฟินตันให้กลับมาเป็นอิสระ แล้วถอนหายใจออกมาให้กับการที่ฟินตันกลืนสิ่งที่ไม่น่ากลืนเท่าไหร่นักของเขาลงท้องไป แถมยังพูดว่ามันมีรสชาติที่หวานอีก แบบนี้มันทำให้อารมณ์ของอัศวินหนุ่มกลับมาพลุ่งพล่านเหมือนเดิมน่ะสิ
“ฮะ ๆ แต่มันก็ไม่เป็นอะไรไม่ใช่หรือ ห- เหวอ!”
ฟินตันหัวเราะแห้ง ๆ จากนั้นก็โดนบอลด์วินอุ้มขึ้นไว้ในอ้อมกอด แล้ววางเขาลงที่กลางเตียงอย่างแผ่วเบา ร่างกายที่เปลือยเปล่าของทั้งสองได้ถูกแสงไฟกระทบจนสามารถเห็นรายละเอียดความงามคนละแบบได้เป็นครั้งแรก ซึ่งภาพที่ต่างฝ่ายต่างได้เห็นร่างกายของกันและกันด้วยอารมณ์ที่มีในตอนนี้มันเลยทำให้ทั้งสองต่างจ้องอีกฝ่ายกันจนตาค้าง
“ย- อย่าจ้องข้าแบบนั้นสิ มันเขินแปลก ๆ”
สุดท้ายก็เป็นฝ่ายฟินตันที่ทนไม่ไหวและหยิบเอาหมอนอีกใบที่ไม่ได้หนุนมากอดเอาไว้เพื่อปกปิดร่างกาย แต่มันก็ไม่ใหญ่พอที่จะปิดส่วนที่ยังคงแข็งขืนอยู่ ณ เบื้องล่างได้อยู่ดี
“ข้าไม่คิดว่าเจ้าจะมีร่างกายที่… น่ามองได้มากเพียงนี้”
“พ- พูดบ้าอะไรของเจ้า หยุดเดี๋ยวนี้เลยนะ!”
ฟินตันฟาดหมอนที่กอดอยู่เข้ากับใบหน้าของบอลด์วินด้วยความเขิน แค่ที่ทำกันไปมันก็เกินกว่าที่เขาจะรับได้แล้ว ยังมีคำพูดลามกพวกนี้อีกหรือ
“ฮ่า ๆๆ ก็เจ้าชายของข้าน่ารักขนาดนี้นี่นา”
บอลด์วินที่ยังคงโดนหมอนฟาดอยู่เรื่อย ๆ หัวเราะออกมาก่อนจะจับหมอนใบในมือของฟินตันออกไปวางไว้ไกลมือของคนที่จับมันฟาดเขา แล้วจึงก้มลงไปคลอเคลียที่ใบหน้าที่มีรอยแผลจากการสู้รบในวันนี้เผื่อมันจะหายเร็วขึ้น
“ข้าไปต่อมากกว่านี้ได้หรือเปล่า?”
มือข้างหนึ่งของบอลด์วินค้ำร่างกายของเขาไว้เหนือผู้เป็นเจ้าชาย ส่วนมืออีกข้างลูบไปมาบริเวณสะโพกด้านซ้ายที่ไม่มีรอแผลเหมือนส่วนอื่นในร่างกาย คงเพราะอยู่ภายใต้เสื้อผ้าแทบจะตลอดเวลาเลยยังมีสัมผัสที่ยังเรียบเนียนเช่นนี้
“ม- หมายถึงเซ็กซ์หรือ?”
“อื้ม... แต่ถ้าเจ้าไม่อยากทำข้าก็จะไม่ทำ ข้าจะใช้มือช่วยให้เจ้าเสร็จแทน”
ฟินตันพยายามเอื้อมมือจะไปหยิบหมอน แต่เพราะมันไกลเกินไป เขาเลยได้ใช้มือของตนมาบังใบหน้าที่กำลังเขินมากไว้แทน ฟินตันไม่คิดจริง ๆ ว่าเรื่องราวในคืนนี้จะดำเนินมาถึงตรงนี้ได้ มันก็จริงที่เขายังไม่เสร็จเลย แต่เซ็กซ์น่ะหรือ…
“ทำเบา ๆ เล่า...”
บอลด์วินอึ้งกับคำพูดที่เขินอายของคนรักของเขา คำอนุญาตนั้นมาพร้อมกับการขยับตัวอ้าขาออกของคนใต้ร่าง เผยใช้เห็นช่องทางน่ารักที่เขาเฝ้ารอมาอย่างยาวนาน ตลอดเวลาที่รักเจ้าชายของเขามา วินาทีนี้มันมาถึงแล้วเสียที ไม่มีอีกแล้วการจินตนาการในขณะช่วยตัวเองในห้องน้ำ
“จะไม่ทำให้เจ้าผิดหวังแน่นอน”
“อึก- อือ…”
ฝ่ามือของบอลด์วินเลื่อนลงไปบีบที่ก้นของฟินตันเบา ๆ ก่อนจะลูบไปมาบริเวณปากช่องทางรักนั้นอย่างเชื่องช้า ราวกับต้องการที่จะให้คนรักของเขามีอารมณ์พลุ่งพล่านมากกว่าเก่าที่เป็นอยู่
“ถ้าไม่ชอบ สามารถบอกข้าได้ตลอดเลยนะ”
หลังจากฟินตันพยักหน้าหงึก ๆ นิ้วชี้ของบอลด์วินก็กดเข้าไปในช่องทางเล็กนั้น นิ้วของเขาจมลงไปลึกขึ้นเรื่อย ๆ และมอบสัมผัสที่หวาดเสียวจนฟินตันต้องบิดตัวไปมา ฟินตันยอมรับว่าเคยสัมผัสร่างกายตรงนี้มาเช่นกัน เขารู้มาตลอดว่ารสนิยมทางเพศของตนนั้นชอบแบบไหน เพียงแต่ไม่เคยบอกใครมาก่อนแม้กระทั่งคนที่เขาอยู่ด้วยมากว่าครึ่งทศวรรษตรงหน้านี้
 
“อึก- อ๊ะ! บ- บอลด์วิน”
นิ้วที่สองถูกแทรกเข้าไปตามนิ้วแรก ด้วยขนาดนิ้วที่ต่างกับของฟินตัน มันทำให้สัมผัสมันมากกว่าปกติที่ฟินตันจะสัมผัสตัวเอง และเขาก็เริ่มจะกลั้นเสียงเอาไว้ไม่ได้แล้ว
“เจ็บหรือ?”
เสียงของฟินตันดึงความสนใจของอัศวินหนุ่มให้ไปถามไถ่ เขากลัวมากเลยว่าฟินตันจะเจ็บ เพราะหากเป็นเช่นนั้นบอลด์วินจะหยุดเลยทันที
“เปล่า… ข้าไม่เคยบอกเจ้าใช่หรือเปล่า?”
“บอกอะไรหรือ? หืม?”
บอลด์วินพรมจูบลงกับหน้าผากที่มีผมปรกอยู่เป็นการปลอบ ก่อนจะได้รู้ความจริงที่ว่า
“ข้าเคยสัมผัสตรงนี้มาก่อน แล้ว… คือ… นิ้วของเจ้ามันใหญ่กว่านิ้วของข้า ข้าเลย… งืออออ…”
ความเขินทำให้ฟินตันหันหน้าหนีและเอามือทั้งสองข้างมาปิดไว้ เรื่องใหม่ที่บอลด์วินได้ยินนี้จึงทำให้เขาโล่งใจไปได้บ้างว่าฟินตันคงจะไม่เจ็บมากจากเรื่องที่จะทำต่อไปนี้ แต่นั่นก็เพราะเขาเองก็ไม่เคยมีประสบการณ์เรื่องเซ็กซ์มาก่อนเช่นกัน ที่ทำเรื่องของการเตรียมตัวอย่างการใช้นิ้วก่อนมานี้เป็นก็เพราะพูดคุยกับเฟลิกซ์ที่เคยมีคนรักมาเมื่อไม่นานมานี้ทั้งนั้น
“เจ้าก็ลามกไม่ต่างจากข้าไม่ใช่หรืออย่างไรแบบนี้?”
“อย่างน้อยข้าก็ล็อกประตูห้องน้ำทุกครั้งก็แล้วกัน ไม่เหมือนกับเจ้- อ๊า!!”
เมื่อถูกพูดแหย่ บอลด์วินเลยดึงนิ้วทั้งหมดออกมาในคราวเดียว เสียงครางที่ดังกว่าปกติทำให้อัศวินหนุ่มต้องรีบใช้มือมาปิดปากคนรักของเขาเอาไว้ ที่นี่คือค่ายพักแรมระหว่างสงคราม มีคนเดินไปเดินมาด้านนอกตลอดเวลา อีกทั้งเต็นท์ข้าง ๆ ยังมีเฟลิกซ์และนอร่าอยู่อีก
“เบา ๆ ฟินตัน…”
“อ้อเอ้าอำแอบอั้นอำไอเอ้า! (ก็เจ้าทำแบบนั้นทำไมเล่า!)”
บอลด์วินจะสงสารก็สงสาร แต่แกล้งฟินตันเป็นสิ่งหนึ่งที่ทำให้เขามีความสุขมาตลอด ฉะนั้นเรื่องบนเตียงก็คงต้องมีการแกล้งกันบ้างนิดหน่อย
“เจ้าพูดแหย่ข้าเองนี่นา แต่… หืม?”
มองลงไปด้านล่าง ช่องทางรักของฟินตันขมิบไปมาราวกับมันขาดหายอะไรไป แล้วยิ่งพอได้สบตากับตาสีน้ำตาลคู่ตรงหน้าแล้ว บอลด์วินก็พอจะเดาออกว่านั่นมันหมายถึงอะไร แล้วในตอนที่ค่อย ๆ ปล่อยมือออกจากปากของฟินตันนั่นเอง
“ส- ใส่เข้ามาได้แล้ว ไอ้บ้า”
 
“ฮ- แฮก อ๊ะ บอลด์วิน อ๊า… ช้าลงก่อน”
หลังจากกดแก่นกายที่แข็งเต็มที่เข้าไปด้านในช่องทางเล็กแทนนิ้วมือ แม้มันจะทุลักทุเลในตอนแรกเพราะทั้งคู่ต่างเป็นครั้งแรกของกันและกัน แต่พอค่อย ๆ ขยับทีละนิดอย่างระมัดระวัง จากใบหน้าเหยเกของฟินตันก็ค่อย ๆ เปลี่ยนกลับมาเป็นเยิ้มฉ่ำเต็มไปด้วยความปรารถนาดังเดิม บอลด์วินเลยมั่นใจและเร่งจังหวะในการขยับเข้าออกให้ถี่ขึ้น จนในตอนนี้ฟินตันกลั้นเสียงเอาไว้ไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว
“ทำไมกัน? เจ้าเจ็บหรือ?”
“ป- เปล่า อึก- ข้ากลัวคนอื่นมาได้ยิน อ๊า!”
เมื่อได้ยินดังนั้น บอลด์วินก็หาทางออกได้เป็นการดันฟินตันไปติดกับหัวเตียง นำหมอนใบเมื่อครู่ที่ถูกนำมาตีใส่เขาถูกเอามารองก้นและหลังคนผมสีน้ำตาลเอาไว้ และปิดปากที่ส่งเสียงครางของฟินตันด้วยริมฝีปากของเขา จูบและเซ็กซ์ที่นำพาอารมณ์ให้พลุ่งพล่านไปจนถึงขีดสุด เสียงของเนื้อที่กระทบกัน ของเหลวที่เริ่มล้นออกมาจนมีเสียงความชื้นแฉะดังออกมาด้วย เหงื่อมากมายที่ผุดขึ้นมาราวกับอยู่ในหน้าร้อน อ้อมกอดที่ร่างกายถูกันไปมาโดยเฉพาะอกที่อ่อนไหว การขยับเข้าออกเป็นจังหวะที่เร่งขึ้นตามความต้องการที่มีมากไม่สิ้นสุด คงอีกไม่นานแล้วถ้าหากยังคงทำต่อไปแบบนี้
“บอลด์วิน ข้า อ๊ะ! ข้าจะเสร็จ”
ฟินตันขยับริมฝีปากออกเพื่อบอกคนรักของเขาและหอบเอาอากาศเข้ามาหายใจ ส่วนปลายของเขามีของเหลวใสไหลหยดออกมาหยดแล้วหยดเล่าจนมันชื้นแฉะเหนอะหนะไปหมด เป็นสัญญาณว่าเขาใกล้จะเสร็จแล้วในอีกไม่นาน
“ทนอีกนิดนะ ฟินตัน… อืม… ข้าเองก็- อ้า…”
“อ๊ะ! บอลด์วิน! ข้าทนไม่ไหวแล้ว จ- จูบข้าหน่อย”
หลังจากได้จูบที่ต้องการ ฟินตันเปลี่ยนจากการจับต้นแขนแกร่งตรงหน้าไปคล้องมือไปรอบคอของบอลด์วินแทน แล้วระบายความรู้สึกมากมายลงที่แผ่นหลังผ่านการจิกและเกาะเอาไว้แน่น ผ่านการขยับเข้าและออกอีกไม่กี่ครั้งร่างกายก็กระตุกหลายที น้ำตาเอ่อไหลออกมาโดยไม่ทราบสาเหตุ พร้อมกับของเหลวขุ่นเหนียวที่พุ่งออกมาเลอะไปตั้งแต่อกลงไปถึงหน้าท้องของเขา แรงบีบรัดจากการถึงจุดสุดยอดนี้ทำให้ช่องทางรักของฟินตันบีบตัวจนนำให้บอลด์วินกลั้นไว้ไม่ไหวเช่นกัน ก่อนจะมอบความอุ่นร้อนส่งเข้าไปภายในตัวของฟินตันหลายครั้งจนร่างกายหยุดกระตุก
“แฮก… แฮก… ไหวหรือเปล่า?”
ฟินตันพิงศีรษะไว้กับไหล่ของบอลด์วินหลังจากปลดปล่อยทุกอย่างออกมา พอได้ยินเสียงเรียก คนเป็นเจ้าชายก็เงยหน้าขึ้นมาจากไหล่และมองคนรักของตนตรงหน้า ก่อนจะพูดคำที่ลืมพูดมาตลอดทั้งวันออกมา
“สุขสันต์วันเกิดนะ บอลด์วิน ข้า… รักเจ้ามาก ๆ เลย แฮ่ก...”
“หืม? เช่นนั้นหรือ”
“อ๊ะ!! อ- อย่าขยับ”
บอลด์วินขยับสะโพกของตนสวนเขาไปด้านในที่ยังคงเชื่อมต่อกันอยู่ลึกกว่าเดิม การถูกจุดที่กระตุ้นความกระสันภายในมันทำให้ฟินตันที่เพิ่งเสร็จไปรู้สึกมากจนล้น เขายังไม่อยากที่จะทำอีกรอบเท่าใดนักในตอนนี้
“เวรแล้วไง ฟินตัน… คือ…”
บอลด์วินปาดเหงื่อออกจากหน้าผากของตนเองก่อนจะนึกขึ้นมาได้ถึงอะไรบางอย่างที่ไม่ควรทำไป และเขาไม่รู้ด้วยว่าฟินตันรู้ตัวหรือยัง
“อะไรหรือ?”
เสียงหอบเหนื่อยยังคงดังมาจากเจ้าของกลุ่มผมสีน้ำตาล บอลด์วินเลยเดาว่าอีกฝ่ายคงจะยังไม่รู้ตัว เขาจึงเอื้อมมือไปหยิบเสื้อชุดนอนของเขาที่เปื้อนไปแล้วมาไว้ในมือ ก่อนจะก้มหัวน้อย ๆ เป็นการขอโทษฟินตัน
“ข้าเสร็จข้างในตัวเจ้า…”
“แล้วมัน ทำไมหรือ?”
ฟินตันเอียงศีรษะด้วยความสงสัย เขาไม่รู้จริง ๆ นี่นา นี่มันก็เป็นครั้งแรกของเขา ไม่เจ็บเท่าที่คิดเอาไว้ก็ดีมากแล้ว
“ข้าได้ยินมาว่ามันจะทำให้ปวดท้อง ข้าจะเอาพวกมันออกมาให้นะ”
ว่าจบบอลด์วินก็ค่อย ๆ ถอนแท่งอุ่นร้อนของเขาออกมาอย่างช้า ๆ เสียงน่าอายดังขึ้นในตอนที่มันหลุดออกจากช่องทางเล็กที่มีสีอมชมพูมากกว่าตอนแรกที่ได้เห็น ก่อนจะตามมาด้วยหยาดน้ำข้นขุ่นที่ค่อย ๆ ไหลออกมาใส่เสื้อที่อัศวินหนุ่มนำมารองเอาไว้ก่อนหน้า
กว่าจะใช้นิ้วมือคว้านเอาส่วนใหญ่ของมันออกมาได้ก็กินเวลานานพอสมควร ฟินตันต้องอดทนในการกลั้นไม่ให้ตนเองครางออกมาจากสัมผัสของบอลด์วิน และพอเสร็จสิ้นทุกอย่างพวกเขาก็ตัดสินใจออกไปชำระล้างร่างกายต่อด้วยกันที่โรงอาบน้ำใกล้ ๆ ที่แทบจะร้างผู้คนในเวลาเกือบจะสี่ทุ่มครึ่งของคืนแห่งอิสรภาพของวาสเซอร์เฟิร์ต
“เจ้าเดินไหวหรือไม่?”
เจ้าของมือที่จับประคองเจ้าชายหนุ่มเอาไว้ถามขณะพวกเขาเดินมาถึงหน้าทางเข้าของค่ายพักแรม
“เห็นข้าอ่อนแอขนาดนั้นเลยหรือยังไงกัน?”
ฟินตันหยุดเดินพร้อมทำท่าเท้าสะเอว บอลด์วินหัวเราะออกมาเพราะเขามองว่ามันน่ารักดี แล้วจึงเดินเข้าไปจูบคนรักของเขาเป็นครั้งที่เท่าไรก็ไม่อาจทราบได้ของวัน
“พักผ่อนเสียเล่าตอนกลับไปถึงเต็นท์”
ฝ่ามือของเจ้าของพลังควบคุมลมปัดเส้นผมที่ชื้นของฟินตันออกจากใบหน้าแล้วเลื่อนไปลูบหัวด้วยความรักและเป็นห่วง
“เข้าใจแล้วขอรับท่านพ่อ”
ฟินตันถอนหายใจใส่คนตัวสูงก่อนจะพูดประชดออกมา คนรักของเขาเป็นแบบนี้มาตลอดเลย เป็นห่วงเขาราวกับวูลแฟรมอย่างไรอย่างนั้น
“เห้อ... เจ้านี่นะ ขอบคุณที่อยู่เป็นของขวัญวันเกิดให้ข้ามาตลอดสิบปีที่ผ่านมานะ”
“ดีใจที่มีเจ้ามาตลอดทศวรรษที่ผ่านมาเช่นกัน”